Q: ดิฉันได้ใบเขียวสิบปีจากการยื่นเรื่องในสถานะแม่หม้าย สามีเสียชีวิตหลังจากแต่งงานได้ไม่นานหลังจากยื่นเรื่องปรับสถานะไป คำถามคือ
* ดิฉันกำลังจะแต่งงานใหม่ ดิฉันเพิ่งได้ใบเขียวปีนี้ ถ้าจดทะเบียนสมรสใหม่ต้องขอใบเขียวใหม่รึป่าวคะ
* ดิฉันถือใบเขียว10 ปีตอนนี้ แต่มีสิทธิ์ขอซิติเซ่นได้ในอีก 5 ปีข้างหน้า ถ้าแต่งงานใหม่ และขอใบเขียวใหม่ ดิฉันจะได้สิทธิ์ขอซิติเซ่นใน 3 ปีเหมือนคู่แต่งงานทั่วไปหรือไม่?
* ถ้าดิฉันจดทะเบียนสมรสใหม่แต่ยังไม่ขอใบเขียว จะถือว่าเราเป็นสามี ภรรยากัน ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่?
* สามีดิฉันเป็นหนี้บัตรเครดิตอยู่หลายหมื่นก่อนเสียชีวิต ดิฉันได้แจ้งทางธนาคารไปแล้วว่า สามีเสียแล้วและได้ชำระหนี้บางส่วน เพราะดิฉันเป็นหม้าย เงินเดือนน้อย จึงไม่สามารถชำระหนี้แทนสามีได้ แต่ทางธนาคารก็ไม่ได้ให้คำตอบอะไรกลับมา ดิฉันจึงปิดบัญชีธนาคารที่มีชื่อร่วมกับสามี และนำเงินไปฝากในบัญชีของพี่สาวแทน เพราะกลัวว่าธนาคารจะตัดเงินจากบัญชีเพื่อชำระหนี้ทั่งหมด มันเป็นไปได้ไหมคะที่ธนาคารจะทำอย่างนั้น? ดิฉันกลุ้มใจเรื่องหนี้สินก้อนนี้มากคะ ถ้าดิฉันแต่งงานใหม่ ใช้นามสกุลใหม่ เปิดบัญชี ธนาคารใหม่ดิฉันจะโดนทวงหนี้รึไม่คะ?
A: สำหรับผู้ถือใบเขียวที่ได้จากสถานะแม่หม้าย คุณจะได้ใบเขียวสิบปีโดยที่จะมีสิทธิทำซิติเซ่นได้เมื่อถือใบเขียวครบห้าปี หรือยื่นเรื่องได้เมื่อครบสี่ปีเก้าเดือน
ระหว่าง ยื่นเรื่อง คุณจะแต่งงานใหม่ไม่ได้ มิฉนั้นจะต้องเริ่มใหม่โดยให้คู่สมรสคนใหม่ยื่นเรื่องให้ แต่ถ้าคุณรอจนได้ใบเขียวสิบปีแล้ว คุณสามารถแต่งงานใหม่ได้โดยไม่กระทบกระเทือนกับใบเขียวของคุณ ไม่ต้องไปยื่นขอใบเขียวใหม่ แต่ยังต้องรอจนครบห้าปี ถึวจะยื่นเรื่องทำซิติเซ่นได้
การทำซิติเซ่นเมื่อถือใบเขียวครบสามปีนั้นมีกรณีเดียว คือ คุณแต่งงานกับอเมริกันซิติเซ่น และคู่สมรสขอใบเขียวให้ เมื่อนับถึงวันที่ยื่นเรื่องทำซิติเซ่น คุณยังต้องแต่งงานอยู่กินกับคู่สมรสคนที่ยื่นเรื่องให้เท่านั้น กรณีนี้ถึงจะนับสามปีได้ค่ะ
ทีนี้มาเรื่องหนี้สินของสามี...
การปิดบัญชีและโยกย้ายเงินไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหาที่ถูกต้อง เนื่องจากคุณไม่มีพินัยกรรม ดังนั้นมีขั้นตอนคือ
* สำรวจว่าสามีคุณมีทรัพย์สินเท่าไหร่ มีหนี้สินเท่าไหร่ มีอะไรบ้าง ในฐานะคู่สมรสคุณต้องรับผิดชอบหนี้สินในส่วนที่ก่อขึ้นหลังจากแต่งงาน ถ้าหนี้สินนั้นมีมาก่อนแต่งงานคุณไม่ต้องรับผิดชอบในส่วนนี้ แต่อาจจะต้องรับผิดชอบบางส่วน ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของการก่อหนี้ และเงินที่นำมาใช้นั้น ได้ใช้ไปกับครอบครัวหรือไม่ อย่างไร ฯลฯ
* ถ้ามีทรัพย์สินหนี้สินรวมกันน้อยกว่าแสนห้า คุณสามารถยื่นเรื่องขอโอนทรัพย์สินเป็นชื่อคุณโดยไม่ต้องไปผ่านศาลโพรเบทได้ แต่ทั้งนี้มีเงื่อนไขว่า ต้องไม่มีทายาทคนอื่น เช่น บุตรที่เกิดกับอดีตภรรยา หรือพ่อแม่
* ถ้ามีทรัพย์สินหนี้สินรวมกันเกินแสนห้า คุณต้องยื่นเรื่องต่อศาลโพรเบท ขอเป็นผู้จัดการมรดก จากนั้น คุณต้องรายงานทรัพย์สินทั้งหมดต่อศาล เพื่อที่ศาลจะได้พิจารณาว่าพอใช้หนี้หรือไม่ หากมูลค่าหนี้มากกว่าทรัพย์สิน คุณก็รับผิดชอบเท่ากับทรัพย์สินที่มี หนี้ส่วนเกินถือว่าลบล้างไป ถ้ามูลค่าหนี้น้อยกว่ามูลค่าทรัพย์สิน หลังจากหักใช้หนี้ไปแล้ว ส่วนต่างที่เหลือก็จะตกเป็นของคุณ
* คุณต้องยื่นแบบภาษีสำหรับปีสุดท้าย จะยื่นร่วมกันหรือยื่นแยกกันก็ได้ แต่ต้องยื่นและต้องแจ้ง IRS ว่าสามีเสียชีวิตเมื่อไหร่
ในกรณีที่ผู้ตายไม่ได้ทำพินัยกรรม คุณต้องยื่นขอเป็นผู้จัดการมรดกเท่านั้น มิฉนั้น คุณจะไม่สามารถโอนรถ บ้าน ฯลฯ เป็นชื่อคุณได้ค่ะ