
หลายคนคงทราบกันมาบ้างแล้วเรื่องแก๊งฉ้อฉลทางอินเตอร์เน็ท ซึ่งส่วนมากเรียกกันว่า Nigerian Scam เพราะมีจำนวนมากมายเหลือเกิน แต่ปัจจุบันมีคนร้ายจำนวนอีกไม่น้อยทั่วโลก ที่ใช้อินเตอร์เน็ทเป็นเครื่อง มือหากินโดยการหลอกลวงคนที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือคนที่ยังใหม่ต่อโลกไซเบอร์ ทีนี้มาดูกันว่ามันมาในรูปแบบไหนกันบ้าง
กรณี แรกค่อนข้างจะล้าสมัย คือใช้มุขนี้กันมานานแล้ว เช่น อ้างตัวว่าเป็นทายาทของผู้นำประเทศ ลี้ภัยอยู่ต่างแดนไม่สามารถเอาเงินออกมาได้ จำเป็นต้องอาศัยบุคคลที่สามเพื่อเป็น proxy สำหรับรับโอนเงินจำนวนนี้ หรือไม่ก็อ้างว่าเป็นนายแบงค์ มีลูกค้าต่างชาติตายไปโดยไม่มีพินัยกรรม จึงคิดจะผ่องถ่ายเงินจำนวนนี้ แต่ต้องการความช่วยเหลือจากบุคคลที่สาม โดยจะให้ส่วนแบ่งเป็นจำนวน 25-30% ไม่ใช่น้อยๆ นะคะ เพราะพูดกันหลักหลายสิบล้านเหรียญ คนไหนความโลภบังตาก็ฝันหวานเลย จากนั้นทางโน้นก็จะขอชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทร และเลขที่บัญชีธนาคาร พอคุณให้ไป มันก็จะโทรมาหาคุณทันที อ้างว่า ต้องจ่ายภาษี หรือมีค่าธรรมเนียมการโอน ที่คุณจะต้องส่งเงินไปให้มันก่อน ไม่งั้นจะเอาเงินก้อนนี้ออกมาไม่ได้ ถ้าคุณหลงเชื่อ ส่งไปให้ มันก็จะหายสาบสูญไปทันทีที่ได้รับเงิน วิธีนี้มีมาตั้งแต่เริ่มมีอินเตอร์เน็ทใหม่ๆ ในอเมริกาเองมีคนโดนกันเยอะ และเป็นเงินจำนวนรายละมากๆ เพราะคนอเมริกันไม่ค่อยมีความรู้เรื่องของประเทศอื่นๆ ในโลก ถ้าศึกษาดูสักนิดจะทราบว่าไนจีเรียเป็นประเทศที่จนที่สุดในโลก และมีชื่ออันดับหนึ่งในสิบของโลกเรื่องการคอรรัปชั่นของรัฐบาล
กลยุทธกลโกงพัฒนามาเรื่อยๆ ล่าสุดนี่เอาตัวอย่างมาให้ดู เอามาจาก ad ในเว็บไซท์ที่มีคนเข้าไปเยอะมากเว็บหนึ่ง
Need someone to buy and ship a few items to the US (Thailand)
Reply to: comm-927941061@craigslist.org [?]
Date: 2008-11-21, 12:59PM ICT
I'm looking for someone that is trustworthy to pick up a few things for me and ship them to the US for me. I'll prepay for them and whatever we can work out for a payment for doing it. This could work out to be a long term thing for the right person. If your interested reply to this posting.
อ่าน ดูเผินๆ ก็เหมือนกับไม่มีอะไรเบื้องหลัง คือผู้ประกาศอาจจะแค่อยากฝากซื้อของที่ไม่มีในบ้านตัว แต่ถ้าคุณติดต่อไป คุณก็จะได้รายละเอียดเพิ่มเติมว่าให้คุณซื้อของ จำนวนไม่กี่ชิ้น ราคายอดรวมไม่กี่ร้อยเหรียญ และให้ส่งไปให้เขา โดยเขาจะส่งเงินมาให้คุณก่อน ฟังดูก็โอเคใช่ไหมคะ ทีนี้คุณก็จะได้รับเช็ค อาจจะเป็นแคชเชียร์เช็คของธนาคารที่คุณไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน และยอดเงินในเช็คนั้นสูงกว่าจำนวนเงินที่จะซื้อขายกันมาก ส่วนใหญ่เป็นหลักพันเหรียญขึ้นไป จากนั้นเขาก็จะอีเมล์มาบอกคุณว่า เขาไม่อยากต้องเสียค่าธรรมเนียมแลกเช็คสองต่อ เลยส่งเช็คฉบับนั้นมาให้คุณเลย และให้คุณส่งของให้เขาพร้อมกับส่งเงินส่วนต่างกลับคืนไปให้เขาทาง western union ถ้าคุณเอาเช็คฉบับนั้นไปเข้าบัญชีคุณ ทางธนาคารจะตียอดตัวเลขในบัญชีคุณให้ แต่ยอดนี้จะยังเบิกถอนไม่ได้จนกว่าจะครบกำหนดตามเงื่อนไขของธนาคาร ซึ่งส่วนมากธนาคารไทยจะกักไว้ประมาณ 30-45 วัน เพื่อจะเคลียร์กับทางธนาคารเจ้าของเช็ค ทีนี้ทางโน้นก็จะเร่งให้คุณส่งของให้ ซึ่งถ้าคุณไม่เคยค้าขายกับต่างชาติมาก่อน คุณก็อาจจะหลงกลเข้าใจว่าเงินเข้าบัญชีคุณแน่นอนแล้ว ก็ส่งของพร้อมกับโอนเงินส่วนต่างไปให้ จากนั้นประมาณอาทิตย์นึง คุณก็จะได้รับแจ้งจากทางธนาคารของคุณว่า เช็คที่เอาไปเข้าบัญชีนั้นเป็นเช็คปลอม ทีนี้ก็เท่ากับว่าคุณไม่ได้รับเงินจากเขา แถมยังต้องควักกระเป๋าโอนเงินของคุณเองไปให้เขาอีก รับรองว่าคุณพยายามติดต่อผู้ซื้อก็ไม่ได้ อีเมล์ก็ไม่ตอบ โทรไปก็หมายเลขถูกยกเลิกไปแล้ว ทีนี้ทั้งของทั้งเงินที่คุณส่งไปก็สูญไปหมดในพริบตา
ไม่ว่า คุณจะ ติดต่อไปหรือว่ามีคนติดต่อมาเพื่อให้คุณซื้อของให้ อย่าหลงกลเป็นอันขาด คิดดูง่ายๆ นะคะ เครื่องใช้ไฟฟ้า มีไม่กี่ประเทศที่ใช้ไฟ 220V ในอเมริกาใช้ไฟ 110V ทำไมเขาจะต้องมาสั่งซื้อถึงเมืองไทย ถ้าไม่ใช่การสั่งทีละมากๆ แบบออร์เดอร์ส่งออกทั่วไป ถ้าเป็นของไม่กี่ชิ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุปกรณ์อีเลคโทรนิคส์ เครื่องเล่นเกมส์ ฯลฯ แถมสินค้าทุกอย่างในอเมริกา ราคาใกล้เคียงกับในไทยเพราะสั่งทำมาจากประเทศจีน
กลยุทธ นี้ ปัจจุบันแพร่หลายไปมาก และผู้ค้าปลีกรายย่อย หลงกลตกเป็นเหยื่อก็มาก หลายรายพบว่าธนาณัติที่เขาส่งมาเป็นของปลอม ทางการไปรษณีย์อเมริกัน หรือ USPS เองก็ต้องเปลี่ยนแปลงรูปแบบหน้าตาของธนาณัติอยู่บ่อยๆ เพราะปัญหาการปลอมแปลงนี่แหละค่ะ ปัญหาหลักคือ หากเกิดกรณีอย่างนี้ขึ้น คุณไม่สามารถไปฟ้องร้องเอากับใครได้ เพราะ jurisdiction คือขอบเขตความรับผิดชอบของกฏหมายระหว่างประเทศยังครอบคลุมไม่ถึง และพบว่าบ่อยครั้งผู้ร้ายอยู่ในประเทศที่สาม ไม่ใช่ประเทศที่เขาอ้างว่าเขาอยู่
ถ้าคุณ ได้รับอีเมล์ประเภทนี้ อย่าเพิ่งผลีผลามทำอะไรลงไป ตรวจสอบดูก่อน โดยการเช็ค IP ที่อีเมล์ว่าส่งมาจากไหน และเลียบเคียงสอบถามก่อนว่ามันจะมาไม้ไหน อย่าโลภ เพราะของฟรีไม่มีในโลก ถ้าเห็นท่าไม่ดีก็ลบทิ้งไปเลย ไม่ต้องไปเสียเวลากับมันค่ะ