แต่งงานกับคนต่างชาติ กับการเปลี่ยนนามสกุลหลังแต่งงาน
Q: ดิฉันแต่งงานกับสามีต่างชาติ แต่ยังไม่ได้เปลี่ยนนามสกุลหลังแต่งงาน จำเป็นไหมคะ มีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้าง
A: ถ้าคุณจดทะเบียนสมรสในประเทศไทย เวลาที่ไปจดทะเบียน คุณสามารถแจ้งต่อเจ้าพนักงานว่า คุณมีความประสงค์ จะใช้นามสกุลเดิม ทั้งนี้คุณ ต้องเปลี่ยนคำนำหน้าชื่อเป็นนาง ในบัตรประชาชน และทะเบียนบ้าน แต่ถ้ายังไม่ต้องการเปลี่ยน ก็ยังสามารถใช้นางสาวไปก่อนได้ แต่ถ้าเกิดหย่ากันขึ้นมาเมื่อไหร่ คุณต้องไปเปลี่ยนคำนำหน้าชื่อ เป็นนางทันที
การเปลี่ยนไปใช้นามสกุลสามี หรือไม่เปลี่ยน ไม่มีผลต่อการขอวีซ่าคู่สมรส เพราะกฏหมายไทยเองก็ยินยอม ให้ฝ่ายหญิงใช้นามสกุลเดิม หรือใช้นามสกุลสามีก็ได้
ถ้าคุณจดทะเบียนสมรสใน ต่างประเทศ คุณไม่จำเป็นต้อง ไปเปลี่ยนเป็นนามสกุลสามี เพราะในหลายๆ ประเทศ เช่นอเมริกา กฏหมายยินยอม ให้ฝ่ายหญิง ใช้นามสกุลเดิม หรือใช้นามสกุลสามีก็ได้ ฉนั้น คุณสามารถเลือกได้ ยกเว้นในกรณีที่ประเทศที่คุณไปอยู่นั้น มีกฏบังคับว่า คุณต้องเลือก ถือสัญชาติใดสัญชาติหนึ่ง ไม่ยอมให้ถือสองสัญชาติ
ทางที่ดีก็คือใช้นามสกุลเดิมในเอกสาร ของไทย เช่น บัตรประชาชนและพาสปอร์ต ส่วนจะทำใบขับขี่ เปิดบัญชีธนาคาร ในต่างประเทศ เป็นนามสกุลสามี วิธีนี้จะทำให้คุณ สามารถทำนิติกรรมต่างๆ ในประเทศไทยได้ด้วยตนเอง ไม่ต้องให้สามีไปเซ็นยินยอม หรือเซ็นรับรองว่าเป็นมรดก เป็นสินเดิม ไม่ใช่สินสมรส เช่น การซื้อและโอน กรรมสิทธิ์บ้านและที่ดิน ฯลฯ
กรณีที่คุณทำกรีนการ์ดเป็นนามสกุลสามี แต่ยังถือพาสปอร์ตไทย เป็นชื่อสกุลเดิม บางคนเกรงว่าจะเป็นปัญหาเวลาเดินทาง ตรงนี้ไม่ต้องห่วงค่ะ คุณซื้อตั๋วเครื่องบิน เป็นชื่อเดียวกับพาสปอร์ต แล้วก็พกสำเนาทะเบียนสมรส ติดกระเป๋าไปด้วย ถ้าโดนถามก็เอาสำเนาทะเบียนสมรส หรือกรีนการ์ดให้ดู เป็นการยืนยันว่าเป็นคนคนเดียวกัน เท่านี้ก็จบ เอาไว้เวลาคุณเป็นซิติเซ่นแล้ว ค่อยทำพาสปอร์ตใหม่ เป็นนามสกุลสามี
มีคนสงสัยว่าทำไมถึงแนะนำให้ใช้นามสกุล เดิม ถ้าคุณจดทะเบียนสมรส ในต่างประเทศ สถานภาพทางกฏหมาย ในประเทศไทยก็คือคุณยังเป็นโสด ตรงนี้ดีที่สุดแล้ว อย่าไปทำให้อะไรๆ มันยุ่งยากโดยไม่จำเป็นเลยค่ะ ในต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอเมริกา สถิติการหย่าร้าง สูงถึง 52% เพระฉนั้น โอกาสที่คุณจะอยู่กินกัน ไปจนแก่ ฉลองครบรอบแต่งงานปีที่ 25 มีไม่ถึงครึ่ง หลายๆ คนเอวังภายในปีเดียวหรือสองปี การที่เอกสารต่างๆ ยังเป็นชื่อสกุลเดิม มีข้อดีตรงที่คุณไม่ต้องตามไปเปลี่ยน เอกสารทุกอย่างที่มี การเปลี่ยนชื่อในเอกสารต่างๆ ต้องเสียค่าใช้จ่ายทั้งนั้น และคุณยังสามารถทำนิติกรรมหลายๆ อย่างได้ด้วยตนเอง ในกรณีที่เลิกกันโดยไม่ได้หย่า หรือสามีไม่ยอมหย่า แต่ต่างคนต่างอยู่คนละประทศ ถ้าคุณเป็นนางและใช้นามสกุลสามี การทำนิติกรรมต่างๆ จะยุ่งยากกว่ามากค่ะ
เรื่องจริงคือ มีน้องคนไทยลงทุนโทรทางไกลมาปรึกษา เพราะจะไปโอนที่ดิน พอเจ้าหน้าที่กรมที่ดินเห็นนามสกุลเท่านั้น บอกทำให้ไม่่ได้ทันที โดยไม่ฟังอะไรทั้งนั้น ดิฉันต้องส่งสำเนา พรบ สัญชาติให้น้องเค้าถือไปให้เจ้าหน้าที่อ่าน ทุลักทุเลกว่าจะเสร็จ บางคนบอกว่าไม่เห็นมีปัญหาอะไร ก็จริงค่ะ ถ้าคุณไปเจอเจ้าหน้าที่ที่รู้งาน รู้ระเบียบ ไม่อคติ และรู้จักใช้สมองทำงาน แต่หลายคนไม่โชคดีอย่างนั้น
ที่หนักกว่านั้นก็คือ มีน้องคนนึงมาปรึกษาแทนเพื่อน เนื่องจากเพื่อนแต่งงานและย้ายไปอยู่ต่างประเทศหลายปีแล้ว ทุกคนในตำบลนั้นรู้หมด วันนึง ที่บ้านได้รับจดหมายลงนามโดยผู้ว่าราชการจังหวัด แจ้งว่าให้เจ้าตัว ไปทำเรื่องขอสละสัญชาติ ทางบ้านก็ตกใจว่ามันเรื่องอะไรกัน เนื่องจากเรื่องนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ พรบ การถือสองสััญชาติประกาศใช้ ดังนั้นจึงประมาณได้ว่า คงมีคนหมั่นไส้ครอบครัวนี้ เลยไปกระซิบให้ผู้ใหญ่ออกหนังสือ กอร์ปกับที่บ้านก็ไม่มีใครรู้กฏหมาย หรือมีการศึกษาสูงๆ เลย ดิฉันก็ได้แค่บอกให้อยู่เฉยๆ ไม่ต้องทำอะไร เพราะกฏหมายไทย ไม่ได้บังคับว่าคุณต้องสละสัญชาติ ก็ได้แต่บอกให้ stay low profile แค่นั้นค่ะ
© 2007 Lawanwadee