โดนจับในอเมริกา ทำยังไงดีคะ..............................
เนื่องจากมีเพื่อนของเพื่อนเป็นนักเรียนมาเรียนภาษาอยู่ ที่อเมริกาค่ะ แอลเอ และโดนจับเข้าคุกไป ข้อหาขโมยของ ต้องใช้เงินประกันถึง 20000 เหรียญ ต้องไปขึ้นศาลอีกเดือนข้างหน้า ตอนนี้ประกันตัวได้ออกมาแล้ว อยากขอความรู้จากผู้รู้หน่อยค่ะ ว่าตอนไปขึ้นศาลต้องทำยังไงบ้าง และจะโดนส่งตัวกลับประเทศมั๊ย
คำถามลักษณะนี้มีเข้ามาบ่อยๆ และเป็นที่น่าเสียดาย เพราะการมีคดีติดตัวนั้นมีผลกระทบกับเรื่องวีซ่า ถึงแม้ว่าจะถือใบเขียวก็ไม่ปลอดภัย เพราะคุณอาจถูกเพิกถอน หรืออาจต่ออายุใบเขียวไม่ได้อีก
จากสถิติการขโมยของในห้างสรรพสินค้าเป็นคดีที่มีจำนวนสูงที่สุดในอเมริกา สิบเปอร์เซนต์ของพลเมืองมีประวัติว่าขโมยของในห้างฯ และหนึ่งในสี่ของคนกลุ่มนี้เป็นวัยรุ่น ความสูญเสียเฉลี่ยทั่วประเทศประมาณปีละสองพันล้านเหรียญ
เนื่องจากเจ้าของคำถามไม่ได้ให้รายละเอียดมากว่า ไปทำอะไร ที่ไหน ฯลฯ จึงขออธิบายกว้างๆ นะคะ
การจะถูกจับเพราะขโมยของในห้างฯ โจทก์หรือร้านค้าจะต้องพิสูจน์ได้ หรือมีหลักฐาน เช่น มีเทปที่อัดจากกล้องวงจรปืดที่ติดตั้งไว้ภายในห้าง พนักงานรักษาความปลอดภัย พนักงานของห้าง พยานที่บังเอิญเห็นเหตุการณ์ ฯลฯ
การตั้งข้อหาจะทำได้ต่อเมื่อคุณถูกจับได้พร้อมของกลางในห้าง และคุณมีพฤติกรรมที่จงใจจะไม่จ่ายเงิน หรือมีพฤติกรรมที่เข้าข่ายทุจริต เช่น สลับป้ายราคาเอาป้ายราคาถูกมาติดบนสินค้าราคาแพง เพื่อคุณจะได้จ่ายเงินถูกลง หรือ เดินออกจากห้างไปทั้งๆ ที่ไม่จ่ายเงิน หรือสวมใส่ หรือกิน และทำลายป้ายราคา หรือซุกซ่อน ทำทีเป็นว่าคุณไม่ได้ซื้ออะไร ฯลฯ
ข้อหาลักทรัพย์ (theft) นั้นแบ่งเป็นสองประเภท คือ Petty theft และ Grand theft
Petty theft เป็น misdemeanor แต่ถ้าเป็น Grand theft เป็น felony การจะพิจารณาว่าเป็น Petty theft หรือ Grand theft นั้นดูจากมูลค่าของทรัพย์สินที่ขโมย ในแคลิฟอร์เนีย ถ้ามูลค่าของของกลางเกินกว่าสี่ร้อยเหรียญ ถือเป็น Grand theft ทันที รัฐแคลิฟอร์เนียเป็นหนึ่งในรัฐที่มีบทลงโทษเฉียบขาดมากสำหรับคดีลักทรัพย์ กล่าวคือ
ถ้าเป็นหนแรก เจ้าตัวไม่เคยมีประวัติว่าเคยต้องคดีอะไรมาก่อน มักจะโดนตั้งข้อหาเป็น misdemeanor มีโทษปรับ ทัณฑ์บนหนึ่งปีหรือสูงสุดไม่เกินสามปี และทำงาน Community service ให้ครบชั่วโมงตามจำนวนที่ศาลสั่ง
แต่ถ้าเป็นหนสอง,สาม, หรือสี่ จะถูกตั้งข้อหาเป็นคดีอาญา (felony) โทษจำคุกหนึ่งปีหรือสูงสุดไม่เกินสามปี
ปกติถ้าเป็นการลักเล็กขโมยน้อย เช่น ขโมยของตามห้างสรรพสินค้า ก็ควรจะไปศาล หากเป็นความผิดครั้งแรกศาลมักผ่อนปรน แต่เงินประกันสองหมื่นในคดีลักทรัพย์นี่ไม่ธรรมดา เพราะการประเมินวงเงินประกันคิดจากโทษสูงสุดของข้อหาที่โดน รัฐมีข้อกำหนดตายตัว เช่น คดีที่มีบทลงโทษจำคุกสามปี ค่าประกันตัวคือสองหมื่น ถ้าเป็นคดีที่มีบทลงโทษจำคุกห้าปี ค่าประกันตัวคือสามหมื่น ดังนั้นจากคำถามข้างบน ถ้าเป็นความผิดหนแรก ค่าประกันตัวสองหมื่นก็นับว่าหนัก เนื่องจากมูลค่าของของกลางมีราคาสูง และถูกตั้งข้อหาเป็นคดีอาญา ปกติถ้าเป็นคดี misdemeanor ค่าประกันตัวไม่กี่พันเท่านั้น ที่เจ้าตัวควรทำคือ ติดต่อทนายที่ทำคดีอาญาโดยด่วน อย่างน้อยจะได้ผ่อนหนักเป็นเบา ส่วนเรื่องผลกระทบกับสถานะวีซ่านั้น มีแน่นอนค่ะ
ร้านรวงต่างๆ เกือบจะร้อยเปอร์เซนต์ในอเมริกา ไม่เฉพาะในห้าง จะติดตั้งกล้องวงจรปิด และถ้าเป็นห้างสรรพสินค้า มักจะมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายที่เรียกว่า loss prevention เดินปะปนกับลูกค้าโดยไม่มีป้ายติดหน้าอก ดังนั้นโอกาสที่จะถูกจับได้มีมาก และห้างร้านหลายๆ แห่งจะไม่มีการผ่อนผันใดๆ ทั้งสิ้น และถ้ามีเรื่องขึ้นมาแล้ว ความเสียหายของคุณจะมากกว่าราคาของที่หยิบมาหลายร้อยเท่าค่ะ