Q: ผมจะไปอเมริกาครับ ในกรณีของผมควรทำอย่างไรดี ต้องขอวีซ่าแบบไหนครับ
ผมพึ่งจบจากมหาลัยครับ จบสาขาวิชาวิศวอุตสาหการ เกรดเฉลี่ย2.12 ต้องการที่จะไปเรียนต่อปริญญาโท ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา สาขา MBA ครับ
เนื่องจากผมมีญาติอยู่ใน ซานฟรานซิโก ผมจึงมีที่พักกับญาติครับ และทางญาติก็ขายอาหารไทยที่นั่นด้วย ผมจึงได้รับโอกาศที่จะได้ไปทำงานกับเขา ซึ่งเขาให้ค่าตอบแทนด้วยครับ
ในกรณีนี้ ผมตั้งใจจะไปทำงานกับญาติก่อนเพื่อเก็บเงินเรียนภาษาในสถาบันสอนภาษาที่นั่น เรียนให้อยู่ในระดับที่เขาสามารถรับรองเราเข้ามหาลัยได้โดยไม่ต้องสอบ โทเอล ครับ และเราก็เข้าเรียนมหาลัยที่นั่น
คำถาม
1.ถ้าผมจะไปทำงานกับญาติก่อนเพื่อเก็บเงินส่งตัวเองเรียน ผมต้องขอวีซ่าแบบไหนครับ
2.ถ้าไปวีซ่าท่องเที่ยว และแอบทำงาน เมื่อผมเก็บเงินได้แล้ว ผมก็ไปสมัครเรียนภาษากับสถานศึกษา ผมต้องกลับมาทำเรื่องเปลี่ยนเป็นวีซ่านักเรียนไหม
3.ถ้าผมจบ ป.โท ที่นั่นผมสามารถทำงานที่นั่นเลยได้ไหมครับ
4.ถ้าใครพอรู้ ว่ามีมหาลัยที่ถูกๆ ไม่แพงมากเกินไปช่วยแนะนำด้วยนะครับ ขอบคุณล่วงหน้าเลยครับ
***หมายเหตุ*** ที่ผมรู้มาคร่าวๆ ถ้าไปวีซ่านักเรียนต้องมีใบเสร็จที่เราจ่ายเงินแล้วถึงจะได้วีซ่านักเรียน แต่ผมคงยังไม่มีเงินมากพอขนาดนั้นที่จะจ่ายค่าเรียนเลย จึงอยากจะไปทำงานที่นั่นกับป้าก่อน เพื่อเรียนรู้วัฒนธรรมเขาด้วย ว่าเราชอบหรือไหม เพราะผมจะต้องไปอยู่ที่นั่นเป็นเวลานาน
สิ่งสำคัญคือ ผมอยากส่งตัวเองเรียนด้วยเงินของตัวเองมากกว่าที่ต้องแบมือขอเงินพ่อแม่ เมื่อผมทำงานกับป้าที่นั่นผมก็หวังว่าจะได้เงินมากพอที่จะส่งตัวเองเรียนได้ ที่พักก็ฟรี มีข้าวให้กินฟรี ไม่ต้องซื้อเอง แต่ผมก็ต้องช่วยค่าน้ำค่าไฟเขาบ้าง
รบกวนขอความรู้จากทุกท่านด้วยนะครับผม
A: คำถามทำนองนี้มีมาบ่อยๆ และคนตอบส่วนมากก็มักจะบอกแค่ว่า ถือวีซ่าท่องเที่ยวหรือวีซ่านักเรียน ทำงานไม่ได้นะ มันผิดกฏหมาย แต่เจาะประเด็นลึกกว่านั้น เช่นเรื่องเรียนภาษา เรียนโท ฯลฯ จะเป็นตัวแปรสำคัญในการตัดสินอนาคตของเจ้าตัวเลยทีเดียว
เรื่องแรก คือเรื่องเรียนภาษา ถ้าคุณจบปริญญาตรีมาจากที่อื่นที่ไม่ใช้หลักสูตรภาษาอังกฤษ ยังไงเสียถ้าจะเข้าเรียนโท ต้องมีผลสอบโทเฟล หรือไอเอลท์ นะคะ ไม่ใช่อย่างที่ฟังมาผิดๆ ว่า เข้าเรียนภาษาแล้วเอาผลเรียนภาษาไปเรียนโทได้เลย ไม่ใช่ค่ะ การสอบโทเฟล คุณจะสอบที่ไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องไปสอบในอเมริกา
เรื่องที่สองคือ เรื่องเรียนโท ขออนุญาตพูดตรงๆ ว่า เกรดเฉลี่ย 2.12 นี่ ไม่มียูที่ไหนรับ ยกเว้นสองกรณีคือ หนึ่ง คุณมีประสบการณ์การทำงานในสายงานของคุณมาแล้วอย่างน้อยสองปี และสอง คะแนนโทเฟลของคุณสูงมาก ถ้าได้สองอย่างนี้ ถึงเกรดปริญญาตรีจะน้อย ก็ยังมีโอกาส คือยังพอมียูที่จะรับคุณเข้าเรียน ส่วนยูประเภท ท็อปเท็น หรือไอวีลีคนี่ลืมไปได้เลยค่ะ
ทีนี้กลับมาที่คำถามค่ะ
* ถ้าจะไปทำงานกับญาติก่อนเพื่อเก็บเงินส่งตัวเองเรียน ต้องขอวีซ่าแบบไหน ถ้าไปวีซ่าท่องเที่ยว และแอบทำงาน เมื่อผมเก็บเงินได้แล้ว ผมก็ไปสมัครเรียนภาษากับสถานศึกษา ผมต้องกลับมาทำเรื่องเปลี่ยนเป็นวีซ่านักเรียนไหม
** ตรงนี้ไม่มีวีซ่าประเภทไหนรองรับ ถ้าคุณจะขอวีซ่าท่องเที่ยว คุณจะอยู่ได้ไม่เกินหกเดือน หรือน้อยกว่านั้น แล้วแต่ว่า ตม จะประทับตราให้อยู่ได้กี่เดือน ถ้าจะไปเรียนภาษาก่อน ก็ต้องขอวีซ่านักเรียนเพื่อไปเรียนภาษา การสมัครเรียนคือคุณต้องเสียเงินลงทะเบียนเรียนก่อน จากนั้น ทางโรงเรียนจะส่ง I-20 มาให้ เพื่อให้คุณเอาไปแนบเรื่องเวลายื่นขอวีซ่า
ตามกฏหมายแล้วผู้ถือวีซ่าท่องเที่ยวห้ามทำงาน คำว่าทำงานในที่นี้หมายความถึงงานรับจ้าง ไม่รวมถึงงานอิสระอย่างฟรีแลนซ์ในสาขาต่างๆ
ถ้าคุณจะแอบทำงานด้วยวีซ่าท่องเที่ยว คุณคงอยู่ไม่ได้นานพอที่จะเก็บเงินเรียนได้ เพราะระยะเวลาสูงสุดที่ ตม สามารถอนุญาตให้ได้คือหกเดือน ซึ่งก็ไม่แน่ว่าคุณจะได้หกเดือน เพราะบางคนได้เดือนเดียว บางคนได้สามเดือน พอครบเทอม คุณก็ต้องกลับเมืองไทย ไม่งั้นวีซ่าขาด และเมื่อวีซ่าขาดแล้ว คุณจะไม่สามารถเปลี่ยนสถานะไปเป็นอย่างอื่นได้
*ถ้าผมจบ ป.โท ที่นั่นผมสามารถทำงานที่นั่นเลยได้ไหมครับ
**ถ้าอยากทำงานด้วยวุฒิปริญญาโท คุณต้องไม่เรียน MBA แต่ต้องเรียนสายตรง สาขาที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ หรือ วิศวกรรมศาสตร์ ถึงจะมีสิทธิลุ้น เวลาเรียนปริญญาโท ถ้าโปรไฟล์ดี ภาษาดี ระหว่างเรียนคุณอาจได้งานในภาควิชา เช่น เป็นผู้ช่วยสอน ครูคุมห้องแล็บ ฯลฯ และเมื่อเรียนจบ คุณมีสิทธิที่จะฝึกงานในสาขาที่คุณเรียนมาเป็นเวลาหนึ่งปี หลังจากนั้น หากมีบริษัทที่เขาสนใจจะจ้างคุณ และยินดีเป็นสปอนเซ่อร์วีซ่าให้ คุณก็มีโอกาสได้ทำงานประจำ โดยมีวีซ่าทำงานถูกต้องตามกฏหมาย
ทีนี้มาว่าด้วยการทำงานร้านอาหารไทย
จากประสบการณ์นะคะ ถ้าคุณมาเรียนภาษาอย่างเดียว และทำงานไปด้วย ส่วนใหญ่จะเกิดอาการขี้เกียจเรียน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อรู้ว่าจะต้องทำคะแนนโทเฟลให้สูงมากๆ เพราะเกรดเฉลี่ยน้อย หลายๆ คนลงเอยด้วยการทำงานอย่างเดียว ปล่อยให้วีซ่าขาด สรุปว่าเสียเวลาไปเป็นสิบปี ก็ยังอยู่เถื่อนไม่มีสถานะอยู่อย่างนั้น
การไปอยู่ และทำงานกับญาติ ไม่ได้แปลว่าคุณมีอภิสิทธิ์เหนือลูกจ้างทั่วไป ตรงกันข้ามคุณอาจจะถูกโขกสับมากกว่าเพราะเขารู้ว่าคุณไปไหนไม่รอด ยังไงก็ต้องพึ่งพาเขาวันยังค่ำ อย่าโลกสวยมากเพราะความเป็นจริงแล้ว ชีวิตในอเมริกาไม่ใช่สวยงาม เพียงแต่ไม่ค่อยมีใครเขาเล่าเรื่องจริงๆ ให้คนอื่นฟัง ยังรักษาหน้าตัวเอง และชอบสร้างภาพกันเสียมากกว่า
ถ้าคิดว่าจะเสี่ยง คุณควรศึกษาทางหนีทีไล่ให้ดีก่อน เช่น เอกสารต่างๆ ใบขับขี่ การเปิดบัญชีธนาคาร การโอนเงิน ภาษี ประกันสุขภาพ ฯลฯ แต่ถ้าถามดิฉัน จะแนะนำให้คุณทำงานก่อนสองปี ระหว่างนี้เตรียมสอบโทเฟลไปเลย จะได้ไม่เสียเวลา และค่าเรียนในไทยถูกกว่ากันมาก จากนั้นค่อยสมัครเรียนโท
โชคดีค่ะ